เมนู

ลำดับนั้น เศรษฐีจึงกล่าวกะลูกชายคนเล็กว่า " มาเถิดพ่อ,
พอละ ด้วยทรัพย์ประมาณเท่านี้ " แล้วให้เรียกพี่ชาย 2 คนนอกนี้มา
แล้ว นอกว่า " ภูเขาทองลูกนี้ ไม่ใช่เกิดเพื่อพวกเจ้า, เกิดขึ้นเพื่อพ่อ
และลูกชายคนเล็ก, พวกเจ้าจงใช่สอยรวมกันกับลูกชายคนเล็กนี้เถิด."
ถามว่า " ก็เพราะเหตุไร ภูเขาทองนั้นจึงเกิดเพื่อบิดาและลูกชาย
คนเล็กเท่านั้น ? เพราะเหตุไร ชฎิลเศรษฐีจึงถูกโยนลงไปในน้ำในเวลา
เกิดแล้ว ?"
แก้ว่า เพราะกรรมที่ตนทำแล้วนั่นเอง.

บุรพกรรมของชฎิลเศรษฐี


ความพิสดารว่า เมื่อมหาชนกำลังสร้างพระเจดีย์ของพระกัสสป-
สัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ พระขีณาสพองค์หนึ่งไปสู่เจติยสถาน แลดูแล้วถามว่า
" พ่อทั้งหลาย เพราะเหตุไร มุขทางทิศอุดรแห่งเจดีย์ จึงยังไม่ก่อขึ้น ?"
มหาชน. ทองยังไม่พอ.
พระขีณาสพ. ฉันจักเข้าไปสู่ภายในบ้านแล้วชักชวน, พวกท่าน
จงทำกรรมโดยเอื้อเฟื้อเถิด.
ท่านกล่าวอย่างนั้นแล้วเข้าไปสู่พระนคร ชักชวนมหาชนว่า " แม่
และพ่อทั้งหลาย ทองที่หน้ามุขข้างหนึ่งแห่งพระเจดีย์ของพวกเรา ยังไม่
พอ, พวกท่านจงรู้ทองเถิด" ได้ไปสู่ตระกูลแห่งนายช่างทองแล้ว. ฝ่าย
นายช่างทอง กำลังนั่งทะเลาะกับภรรยาอยู่ในขณะนั้นเอง.
ครั้งนั้น พระเถระกล่าวกะเขาว่า " ทองสำหรับหน้ามุขที่พระเจดีย์
อันท่านทั้งหลายรับไว้ยังไม่พอ, การที่ท่านรู้ทองนั้นย่อมควร. เขากล่าว

ด้วยความโกรธต่อภรรยาว่า " ท่านจงโยนพระศาสดาของท่านลงในน้ำ
แล้วไปเสีย."
ลำดับนั้น นางจึงกล่าวกะเขาว่า " ท่านทำกรรมอย่างสาหัสยิ่ง
ท่านโกรธดิฉัน ควรจะด่าหรือควรจะเฆี่ยนดิฉันเท่านั้น, เหตุไฉนท่านจึง
ทำเวรในพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ทั้งที่เป็นอดีตอนาคตและปัจจุบันเล่า ? "
ทันใดนั้นเอง นายช่างทองเป็นผู้ถึงความสลดใจแล้ว กล่าวว่า " ท่าน
เจ้าข้า ขอท่านจงอดโทษแก่กระผม " แล้วหมอบลงแทบเท้าของพระ-
เถระ.
พระเถระ. โยม ฉันหาถูกท่านว่ากล่าวอะไร ๆ ไม่, ท่านจงยัง
พระศาสดาให้อดโทษเถิด.
นายช่างทอง. ท่านเจ้าข้า กระผมจะทำอย่างไรเล่า จึงจะให้พระ-
ศาสดาอดโทษได้ ?
พระเถระ. ท่านจงทำหม้อดอกไม้ทองคำ 3 หม้อ บรรจุเข้าไว้
ภายในที่บรรจุพระธาตุแล้ว เป็นผู้มีผ้าชุ่ม มีผมชุ่ม ยังพระศาสดาให้
อดโทษเถิด โยม.
เขารับว่า ดีละ ขอรับ " แล้วเมื่อจะทำดอกไม้ทองคำ ให้เรียก
บุตรชายคนใหญ่ในบุตร 3 คนมาแล้ว กล่าวว่า " มานี่แน่ะ พ่อ, พ่อ
ได้กล่าวกะพระศาสดาด้วยคำเป็นเวร, เพราะฉะนั้น พ่อจักทำดอกไม้
เหล่านี้ บรรจุในที่บรรจุพระธาตุ ให้พระศาสดาอดโทษ, แม้เจ้าแล ก็
จงเป็นสหายของเรา."
ลูกชายคนใหญ่นั้นบอกว่า " พ่ออันฉันใช้ให้กล่าวคำเป็นเวร หามิ
ได้, พ่อทำแต่ลำพังเถิด" แล้วไม่ปรารถนาจะทำ.

ช่างทอง ให้เรียกลูกชายคนกลางมาแล้ว กล่าวเหมือนอย่างนั้น.
แม้ลูกชายคนกลางนั้น ก็กล่าวเหมือนอย่างนั้น แล้วไม่ปรารถนาจะทำ.
เขาจึงให้เรียกลูกชายคนเล็กมาแล้ว ก็กล่าว (เหมือนอย่างนั้น).
ลูกชายคนเล็กนั้นคิดว่า " ธรรมดาว่ากิจที่เกิดขึ้นแก่บิดา ย่อมเป็น
ภาระของบุตร" จึงเป็นสหายของบิดา ได้ทำดอกไม้ทั้งหลายแล้ว. นาย
ช่างทองยังหม้อดอกไม้ขนาดคืบหนึ่ง 3 หม้อ ให้สำเร็จแล้วบรรจุในที่
บรรจุพระธาตุ มีผ้าชุ่ม มีผมชุ่ม ยังพระศาสดาให้อดโทษแล้ว. เขาได้
ถูกโยนลงไปในน้ำในเวลาเกิดถึง 7 ครั้ง ด้วยประการฉะนี้.
ก็อัตภาพของเขาที่ตั้งอยู่แล้วในที่สุดนี้ แม้ในบัดนี้ ก็ถูกโยนลงไป
ในน้ำ เพราะผลของกรรมนั้นเหมือนกัน. ส่วนบุตรของเขาสองคนใด
ไม่ปรารถนาจะเป็นสหายในเวลาทำดอกไม้ทองคำ, เพราะเหตุนั้น ภูเขา
ทองจึงไม่เกิดสำหรับบุตรทั้งสองนั้น, แต่เกิดสำหรับลูกชายคนเล็ก เพราะ
ความที่เขาทำดอกไม้ทองคำร่วมกัน (กับบิดา).

ชฎิลเศรษฐีออกบวชได้บรรลุพระอรหัต


เศรษฐีนั้นพร่ำสอนบุตรแล้ว บวชในสำนักพระศาสดา บรรลุ
พระอรหัตแล้วโดย 2-3 วันเท่านั้น ด้วยประการฉะนี้.
โดยสมัยอื่น พระศาสดาเสด็จเที่ยวไปเพื่อบิณฑบาต พร้อมด้วย
ภิกษุ 500 รูป ได้เสด็จไปสู่ประตูเรือนของบุตรทั้งหลายของเศรษฐีนั้น.
บุตรเหล่านั้น ได้ถวายภิกษาหารแก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข
ตลอดกึ่งเดือน.
ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในโรงธรรมว่า " ชฎิล ผู้มีอายุ แม้ใน